ปิโตรเลียม หรือที่รู้จักกันในชื่อน้ำมันดิบ เป็นของเหลวที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ พบอยู่ใต้พื้นผิวโลก ก่อตัวขึ้นเป็นเวลาหลายล้านปีจากซากพืชและสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในทะเลที่ถูกฝังอยู่ใต้ชั้นตะกอน ภายใต้ความร้อนและความดัน ซากเหล่านี้จะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นไฮโดรคาร์บอนที่ประกอบกันเป็นปิโตรเลียมในปัจจุบัน
ปิโตรเลียมเป็นหนึ่งในทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญที่สุดของโลก เพราะสามารถนำไปกลั่นเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมายที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้
ปิโตรเลียมเกิดขึ้นได้อย่างไร
พืชและสิ่งมีชีวิตในทะเลที่ตายแล้วจะตกลงสู่ก้นทะเล
ชั้นตะกอนปกคลุมทับถมกัน ทำให้ความดันและอุณหภูมิเพิ่มขึ้น
ปฏิกิริยาเคมีเปลี่ยนสารอินทรีย์ให้เป็นน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเป็นเวลาหลายล้านปี
ปิโตรเลียมจะเคลื่อนตัวผ่านชั้นหินที่มีรูพรุนจนกระทั่งติดอยู่ในแหล่งกักเก็บใต้ดิน
การใช้ประโยชน์จากปิโตรเลียม
ปิโตรเลียมมีความหลากหลายอย่างยิ่ง สามารถนำไปกลั่นเป็น:
one. เชื้อเพลิง
น้ำมันเบนซิน
น้ำมันดีเซล
น้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน
น้ำมันก๊าด
ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)
two. ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี
ปิโตรเลียมเป็นวัตถุดิบสำหรับสิ่งของในชีวิตประจำวันมากมาย เช่น:
พลาสติก
ยางสังเคราะห์
ปุ๋ย
ผงซักฟอก
สี
เส้นใยสังเคราะห์ (ไนลอน โพลีเอสเตอร์)
3. petroleum น้ำมันหล่อลื่น
ใช้ในเครื่องยนต์และเครื่องจักรเพื่อลดแรงเสียดทาน
four. ยางมะตอย
ใช้ในการก่อสร้างถนน
ทำไมปิโตรเลียมจึงสำคัญ
ขับเคลื่อนการขนส่ง
สนับสนุนอุตสาหกรรมทั่วโลก
ผลิตกระแสไฟฟ้า (ในบางภูมิภาค)
เป็นฐานการผลิตสินค้านับไม่ถ้วน
ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก
ข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อม
แม้ว่าปิโตรเลียมจะมีคุณค่ามหาศาล แต่ก็มาพร้อมกับปัญหาสิ่งแวดล้อม:
มลพิษทางอากาศจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง
การปล่อยก๊าซเรือนกระจก (CO₂) ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การรั่วไหลของน้ำมันเป็นอันตรายต่อมหาสมุทรและสัตว์ป่า
การปนเปื้อนของดินและน้ำจากกิจกรรมการขุดเจาะ
ด้วยเหตุนี้ หลายประเทศจึงกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่แหล่งพลังงานหมุนเวียน
อนาคตของปิโตรเลียม
แม้จะมีพลังงานสะอาดเพิ่มขึ้น แต่ปิโตรเลียมก็ยังคงมีบทบาทสำคัญในระบบพลังงานโลกไปอีกหลายปี อย่างไรก็ตาม โลกกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่:
เชื้อเพลิงที่สะอาดขึ้น
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
แหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และไฮโดรเจน
เทคโนโลยีปิโตรเลียมที่ยั่งยืน